วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การจัดสวนถาด

1.การจัดสวนถาดคืออะไร
2.มีกี่แบบกี่ชนิด
3.แต่ละแบบมีอุปกรณ์อะไร
4.ดีทุกแบบอย่าง
5.วิธีการเลือกต้นไม้
6.การออกแบบและเขียนแบบ

รูปแบบของสวนถาดในบ้านเรานิยมทำเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การจัดเหมือนแจกันดอกไม้และการจัดแบบย่อส่วนทิวทัศน์หรือเรื่องราวต่าง ๆ

ตอบข้อ 1.

1. สวนถาดที่มีลักษณะคล้ายการจัดแจกัน

ได้แก่ การจัดกลุ่มไม้ดอก กล้วยไม้ ไม้ใบ หรือผสมสานกัน ปลูกลงในภาชะที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นโลหะ เครื่องจักสาน เครื่องเคลือบ กระถางทรงต่าง ๆ เหมาะที่จะเป็นของขวัญ ของกำนัล หรือใช้ตกแต่งสถานที่ โดยมีความทนทานกว่าดอกไม้สด เมื่อต้นไม้เริ่มโตแน่นภาชนะ ก็ย้ายไปปลูกในที่ใหม่ได้ อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับการเลือกใช้พันธุไม้ด้วย การจัดสวนถาดในลักษณะนี้ทำให้เกิดความชำนาญในการใช้สีสัน การเลือกรูปทรง เส้นสาย และสัดส่วนของต้นไม้ ความละเอียด ความหยาบของใบ การจัดวางจุดเด่น การเลือกภาชนะให้เข้ากับต้นไม้และรูปแบบการจัดวาง

2. สวนถาดที่ย่อส่วนมาจากทิวทัศน์หรือเรื่องราว

2.1 ย่อส่วนทิวทัศน์ภูเขาโดยใช้ก้อนหินจริง

สวนถาดแบบนี้คล้ายการย่อส่วนทิวทัศน์ของภูเขา ซึ่งอาจจงใจให้เป็นภาพของภูเขาขนาดใหญ่หรือมุมเล็ก ๆ ของก้อนหิน ซึ่งมีต้นไม้ดอกไม้เล็ก ๆ ขึ้นแทรกอยู่ อาจมีตุ๊กตาสัตว์หรือคนจำลอง รวมทั้งสะพาน สิ่งก่อสร้าง เรือ ฯลฯ ควรจัดลงในถาดที่ค่อนข้างตื้น

2.2 เขามอ หรือสวนถาดที่ก่อภูเขาขึ้นเอง

เขามอ ก็คือบอนไซชนิดหนึ่งซึ่งคนไทยนิยมเล่นกันมาตั้งแต่โบราณ โดยมากมักก่อภูเทขึ้นเองด้วยหินขนาดเล็กสีน้ำตาล ผิวมีรอยร่อง เรียกว่า หินเสี้ยน ในสมัยก่อนมักมีการก่อเขามอขนาดใหญ่สูงท่วมศีรษะ เพื่อประดับวังหรือบ้าน ปัจจุบันก็วมักอยู่ถาดเคลือบซึ่งอาจยกย้ายไปมาได้เหมือนสวนถาดอื่น ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายนัก เพราะค่อนข้างมีน้ำหนักมาก

2.3 ย่อส่วนทิวทัศน์ทั่วไป

สวนถาดลักษณะนี้ใช้ภาชนะได้ทุกประเภท แต่ก็ควรมีความลึกพอที่จะบรรจุภาชนะปลูก เพราะมักปลูกต้นไม้จริงประกอบ สวนถาดแบบนี้ควรมีของตกแต่งที่เข้ากับเรื่องราว เช่น โอ่งดินเผา อ่างน้ำ กระบวยไม้ไผ่ รางน้ำไหล ฯลฯ ส่วนเรื่องราวนั้น เราอาจผูกเรื่องขึ้นเองเป็นภาพชีวิตในชนบท จากนิทานหรือนิยายปรัมปราตลอดจนีวิตในบ้าน ชีวิตสัตว์ในป่าหรือทุ่งหญ้า สวนถาดประเภทสุดท้ายนี้ น่าจะเป้นสื่อที่เปิดโอกาสใหด้ผู้จัดได้ใช้ความคิดฝันสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย และเป็นสิ่งที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน ตลอดจนใช้ศิลปะในการย่อส่วนให้ถูกสัดส่วนมากที่สุด

ตอบข้อ 2.

ตเนื่องจากภาชนะสำหรับจัดสวนถาดมักมีขนาดเล็กกะทัดรัด ยกย้าเมื่อเพื่อน ๆ ได้รู้จักพันธุ์ไม้ประเภทต่าง ๆ กันแล้วนะคะ ก็ควรจัดดินและเครื่องปลูกให้เหมาะสมกับพันธุ์ไม้แต่ละประเภท เพื่อจะได้เลี้ยงดูต้นไม้ในสวนถาดให้อยู่ได้นาน ๆ

ดินผสมสำหรับปลูกต้นไม้มีมากมายหลายยี่ห้อ ดินที่มีคุณภาพดีควรมีลักษณะโปร่งร่วน มีก้อนดินผสมอยู่ด้วย ก้อนดินไม่ควรมีขนาดใหญ่นัก มีเศษใบไม้ผุและอินทรียวัตถุ มีค่อนข้างเข้มดำ ดินผสมที่มีปุ๋ยเคมีผสมอยู่ด้วยจะทำให้เค็ม นานไปจะมีขี้เกลือจับอยู่บนผิวดิน รดน้ำแล้วซึมผ่านยาก ต้นไม้จะเหี่ยวเฉาตาย ดินส่วนมากที่ใช้กันมักจะทำการผสมโดยอาจใช้ ดินผสม ขุยมะพร้าว และแกลบ ดังรูป

เมื่อปลูกต้นไม้แล้วก็ต้องหาวัสดุต่าง ๆ มาปกปิดผิวดินให้ดูงดงามขึ้นและยังช่วยรักษาความชื้นไม่ให้ระเหยไปได้ง่าย อาจตกแต่งได้โดยใช้

ทรายหยาบ ใช้โรยปิดผิวดินเป็นช้นแรก เพื่อกรองและทำให้ดินดำ หรือเครื่องปลูกไม่กระเด็นขึ้นมาเหนือผิวหน้าของกระถาง

กรวด กรวดมีหลายชนิด หลายขนาด หลายสี นอกจากนี้ยังมีกรวดบดหลากสี บางทีมีการย้อมสีที่ผิดไปจากธรรมชาติเจตนาให้ดูคล้ายเศษพลอยดิบสีสวย ๆ แต่โดยมากจะย้อมสดจ้าจนเกินงาม

ทรายแก้ว เป็นทรายเม็ดละเอียดมาก สีขาวสะอาด แต่เป็นทรายทะเล จึงต้องแช่น้ำเสียก่อน

เม็ดดินเผา เป็นวัสดุจากต่างประเทศ มีคุณสมบัติดูดเก็บความชื้นได้ดี มีน้ำหนักค่อนข้างเบา แต่ก็ไม่เบาจนลอยน้ำได้

มอส มอสบางชนิดขึ้นอยู่ตามผิวดินชื้น หรือขายตามร้านขายอุปกรณ์สำหรับจัดดอกไม้ การปิดผิวดินด้วยมอสเหมาะกับสวนถาดที่ปลูกไม้ซึ่งชอบแสงรำไรเท่านั้น

ยไปมาง่าย หรืออาจจะมีขนาดใหญ่จนเคลื่อนย้ายยาก แต่ก็มีลักษณะจำกัด ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถเติบโตหยั่งรากได้อย่างอิสระเช่นอยู่ในพื้นดิน ดังนั้น ต้นไม้สำหรับสวนถาดจึงควรมีขนาดเล็ก แคระ หรือเป็นไม้ดัด ไม้บอนไซ ปลูกเลี้ยงง่าย และทนทานเมื่ออยู่ในที่จำกัด ตัวอย่างเช่น

โมกแคระ

ตัดแต่งรูปทรงหรือดัดให้มีรูปร่างเหมือนไม้ใหญ่ได้

สูง 10-30 เซนติเมตร จัดเป้นจุดเด่นนในสวนถาด

ผลิดอกสีขาวขนาดจิ๋ว กลิ่นหอม ใบเล็กรับกับขนาดต้น

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนและปักชำ

บลูฮาวาย

ลักษณะเป็นพุ่มไม้เล้ก สูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร

ออกดอกที่ปลายยอด สีม่วงน้ำเงิน

เหมาะจัดไว้เป็นฉากหลังเพราะค่อนข้างสูง

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำ

บีโกเนีย

ลักษณะเป็นไม้ดอกล้มลุก

ดอกมีหลายสี เช่น ขาว แดง ชมพู ส้ม

เหมาะจัดไว้ในตำแหน่งที่เห็นดอกชัดเจน

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ชำยอด ชำใบ

เหลืองคีรีบูน

ลักษณะเป็นไม้พุ่ม

สูง 20-40 เซนติเมตร ดอกเป็นสีเหลือง

เหมาะกับภาชนะที่ใช้ต้นไม้ไม่มากนัก

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ

ดาดตะกั่ว

เป็นไม้คลุมดิน

หน้าใบสีเขียวเคลือบเงิน หลังใบสีม่วงแดง

เหมาะจัดแทรกไว้กับพันธุ์ไม้อื่น

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำ

พลูด่างต่าง ๆ และฟิโลเดนตรอน

พลูและฟิโลเดนตรอนมีหลายชนิด ส่วนมากใบพลูมักมีขนาดกะทัดรัดกว่าใบฟิโลเดนดรอน ถ้าใช้ฟิโลเดนดรอนก็เลือกพันธุ์ที่มีใบเล็ก แต่คงเหมาะกับกระเช้าขนาดค่อนข้างใหญ่ พลูต่าง ๆ ได้แก่ พลูด่าง ราชินีหินอ่อน พลูทอง พลูลงยา พลูฉลุ พลูสนิม พลูเขียว หัวใจแนบ ทุกชนิดชอบแสงรำไรราว 50-70 %

แคคตัส

ลักษณะเป็นไม้อวบน้ำ

ชอบที่มีแสงอ่อน ๆ

สามารถป้องกันอันตรายากสัตว์ แมลงและกันน้ำระเหยได้

โดยมากมีขนาดเล็ก

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

จงตอบคำถามของการจัดสวนถาด

การเพาะถั่วงอกตัดราก































อุปกรณืการเพาะถั่วงอก


1.เเช่เมล็ดถั่วเขียวไว้ 1 คืน

2.ตัดกระสอบและตะแกรงวางบนซึ้ง
3.นำเมล็ดถั่วเขียวที่แช่แล้วมาปลูกลงในซึ้ง
4.คอยรดน้ำทุกๆๆๆๆๆ4-6 ชั่วโมง
5.พอครบ3 วันจะได้ถั่วงอกที่ สวย อวบ ขาว

6.นำถั่วงอกไปตัดรากและนำไปขาย







วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเพาะถั่วงอกตัดราก




อุปกรณในการเพาะถั่วงอก


1.เมล็ดถั่วเขียว


2.กระสอบ


3.ตะแกรง


4.ซึ้ง

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

การเพาะถั่วงอกตัดราก

อุปกรณ์ในการเพาะถั่วงอก
1.เมล็ดถั่วเขียว
2.กระสอบป่าน
3.ตะแกรงเก็ดปลา
4.ซึ้ง

การเพาะถั่วงอกตัดราก

การเพาะถั่วงอกตัดราก

อุปกรณ์ในการเพาะถั่วงอก
1.ท่อปูนซีเมนต์50x50
2.กระสอบป่าน
3.ตะแกรงกว้างxยาว 4-5 มิลเมตร
4.ผ้าสักหลาดสีดำ
ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเพาะถั่วงอก : 1. เมล็ดพันธุ์ถั่วต้องดี มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สายพันธุ์ถั่วเขียวที่คุณนิมิตแนะนำคือ สายพันธุ์ “กำแพงแสน2” เนื่องจากเป็นถั่วเขียวผิวมนเมล็ดใหญ่ มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงทำให้ถั่วงอกที่เพาะออกมา ต้นโต ยาว อวบอ้วน น่ารับประทาน2. ภาชนะที่เพาะต้องทึบแสง มีการระบายน้ำดี เช่น การเพาะถั่วงอกในตะกร้า ก็เอาถุงดำมาคลุมแล้วไว้ในห้องที่มืด หรือเพาะในวงบ่อซีเมนต์ที่ปิดปากบ่อให้มืด เป็นต้น3. มีการให้น้ำอย่างเหมาะสมและเพียงพอที่จะทำให้ถั่วงอกที่เพาะไม่เกิดความร้อนที่สะสมมากเกินไป วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่ามีความร้อนสะสมหรือไม่โดยให้ผู้เพาะใช้มือสัมผัสเมล็ดถั่วเขียวชั้นบนสุดว่ารู้สึกร้อนหรือไม่ และการให้น้ำแต่ละครั้งจะต้องไม่มีไอจากความร้อนขึ้นมาเพาะถ้าตะกร้าหรือวงบ่อที่เพาะถั่วงอกมีความร้อนสะสมมากไป ก็จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอกจะทำให้ลำต้นเล็กไม่อวบอ้วนจะทำให้ถั่วงอกมีรากฝอยมาก ทำให้ไม่น่ารับประทาน***เมื่อเข้าใจหลัก 3 ประการเบื้องต้นแล้ว “เกษตรกรและผู้สนใจควรเริ่มต้นการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบใช้ตะกร้าพลาสติกเป็นภาชนะเพื่อให้เกิดความชำนาญก่อนเป็นอันดับแรก” เกษตรกรจะเกิดขบวนการเรียนรู้ ตั้งแต่เริ่มเตรียมอุปกรณ์จนตัดรากถั่วงอกเพื่อจำหน่าย เมื่อเกิดความชำนาญในการเพาะถั่วงอกตัดรากมีตลาดเข้ามาก็สามารถขยายกำลังผลิตได้ไม่ยาก อุปกรณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเพาะถั่วงอกตัดรากในวงบ่อซีเมนต์ :

อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดถั่วงอก : 1. มีดด้ามยาว เอาไว้ตัดตัวงอกเมื่ออายุได้ 3 วันแล้ว2. กะละมังใบใหญ่ เอาไว้เวลาตัดถั่วงอกลงล้าง3. ตะแกรงห่างเอาไว้ชอนถั่วงอกใส่ตะกร้า4. ตะกร้า หลังจากที่ทำการตัดรากลงในกะละมังน้ำเพื่อล้าง แล้วชอนถั่วงอกลงตะกร้าเพื่อผึ่งลมให้แห้ง และเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุถุงและการเก็บรักษา5. ขั้นตอนการบรรจุถุงและการเก็บรักษา นับเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ เมื่อต้นถั่วงอกสะเด็ดน้ำแล้วให้รีบเอาไปบรรจุลงถุงพลาสติกทันที มัดปากถุงให้แน่น เหตุผลที่ต้องรีบบรรจุถั่วงอกลงถุงพลาสติกให้เร็วที่สุดเพราะถ้าปล่อยให้ถั่วงอกสัมผัสอากาศนาน ๆ ต้นถั่วงอกจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีเหลืองแล้วจะคล้ำดำในที่สุด ตลาดไม่ต้องการหรือนำไปประกอบอาหาร ถั่วงอกแบบอินทรีย์นี้สามารถเก็บได้นานถึง 7- 10 วันโดยไม่เหลือง และยังคงความสด และกรอบเหมือนใหม่ ๆ แต่จะต้องเก็บไว้ในตู้เย็น

การเพาะถั่วงอกตัดราก